ไอแห้งในช่วงฝนตก! สัญญาณเตือนโรคหลอดลมอักเสบ
บทความสุขภาพ
ไอแห้งในช่วงฝนตก! สัญญาณเตือนโรคหลอดลมอักเสบ
ไอไม่หยุด ในช่วงฤดูฝน ซึ่งอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ทำให้ร่างกายอ่อนแอและเสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจได้ง่าย หนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยคือ “หลอดลมอักเสบ” ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ โดยมักมีอาการไอเรื้อรัง มีเสมหะจำนวนมาก และบางรายอาจมีไข้หรือหายใจเหนื่อยร่วมด้วย หากละเลย อาจกระทบคุณภาพชีวิตและการทำงานประจำวันได้
โรคหลอดลมอักเสบคืออะไร ?
โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) คือโรคที่เกิดจากภาวะอักเสบของเยื่อบุหลอดลมในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ทำให้ต่อมเมือก (mucous gland) โตขึ้น และหลั่งเมือกออกมามากกว่าปกติ กระทั่งเกิดเป็นการอุดตัน ส่งผลให้ช่องทางเดินหลอดลมตีบแคบ เกิดอาการไอ หายใจลำบากและมีเสมหะ ซึ่งโรคหลอดลมอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือสัมผัสกับสารก่อระคายเคืองบ่อยๆ และมักพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
หลอดลมอักเสบ มีอาการอย่างไร ?
โรคหลอดลมอักเสบสามารถแสดงอาการได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและระยะเวลาของโรค ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเล็กน้อยและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงและกินเวลายาวนาน โดยทั่วไปมีอาการสำคัญที่พบได้บ่อย ดังนี้
- ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ คล้ายกับโรคหวัด มักหายได้เองภายใน 7-10 วัน แต่ไอแห้งมักจะเป็นได้หลายสัปดาห์
- มีเสมหะ มีทั้งเสมหะแบบไม่มีสี หรืออาจมีเสมหะสีเหลือง สีเขียว บางรายอาจมีเลือดปนอยู่ด้วย
- หายใจลำบาก หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด หรือมีอาการแน่นหน้าอก
- ไข้ มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวก่อน ซึ่งผู้ป่วยอาจมีไข้ หรือไม่มีไข้ก็ได้
รู้หรือไม่? ภาวะหลอดลมอักเสบ พบว่า 50% ไอนานกว่า 2 สัปดาห์ และ 25% ไอนานกว่า 4 สัปดาห์ ผู้ที่มีหลอดลมอักเสบ ร่วมกับอาการสงสัยว่าหลอดลมตีบ เช่น อาการหายใจไม่อิ่ม แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงวี้ด เหนื่อยง่าย พบว่าสัมพันธ์กับการเป็น หอบหืด หรือ ถุงลมโป่งพอง มากขึ้น ควรได้รับการรักษา ติดตาม และตรวจประเมินเพิ่มเติม เช่น ตรวจสมรรภภาพปอด
การรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
โรคหลอดลมอักเสบชนิดเฉียบพลัน มักจะหายได้เอง ภายใน 7-10 วัน ถ้าปฏิบัติตนถูกต้อง
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำอุ่นบ่อยๆ
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ รวมทั้งหลีกเลี่ยงควัน ฝุ่น กลิ่นฉุน และสารเคมีต่างๆ เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบในหลอดลมมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสอากาศอากาศเย็น เช่น การดื่มน้ำเย็น อาบน้ำเย็น หรือการใช้เครื่องปรับอากาศ และพัดลมไม่ควรที่จะสัมผัสโดยตรง เพราะอากาศที่เย็นสามารถทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิต้านทานลดลง กระตุ้นเยื่อบุหลอดลมให้อักเสบ ส่งผลให้มีอาการไอมากขึ้นได้
- ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย เช่น นอนห่มผ้า ใส่เสื้อหนาๆ และกางเกงขายาว
โรคหลอดลมอักเสบชนิดเรื้อรัง ควรหาสาเหตุ และรักษาตามสาเหตุ อาจให้ยาลดการอักเสบของหลอดลม ยาขยายหลอดลม
การป้องกันโรคหลอดลมอักเสบเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่สูบบุหรี่ และผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น รวมถึงหมั่นสังเกตอาการของตนเอง และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ ควรหมั่นสังเกตอาการของทั้งตัวคุณเองและคนใกล้ชิด เพื่อค้นหาสาเหตุและสามารถเข้ารับการรักษาได้ทันถ่วงที
ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |